

รายการโหนกระแส วันนี้ เปิดใจเด็กนักเรียน ร้องไห้ไหว้ นายทุน ปิดทางเข้าออกโรงเรียน บนเกาะหลีเป๊ะ ตัวแทนชาวบ้านจี้สอบ ได้เอกสารสิทธิ์โดยชอบหรือไม่ แฉ ซ้ำรุกที่อุทยาน
รายการโหนกระแสวันที่ 15 ธ.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้สัมภาษณ์ ป้าดุก พิชญา แก้วขาว ตัวแทนมูลนิธิชุมชนไท ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน , เรณู – ละออง ชาวบ้านที่ถูกนายทุนฟ้องร้องบุกรุก ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมาย สภาทนายความ และ พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ และ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ประเด็นมันอย่างไรกันแน่ เห็นนักเรียนมาร้องห่มร้องไห้?
ป้าดุก : แท้จริงรากของปัญหา พวกเรา คิดว่า ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ครอบเส้นทางสาธารณะ ที่ชาวบ้านเดินกันมา 4 รุ่นคน ไม่น่าต่ำกว่า 100 ปี อยู่กัน 1,500 คนที่อยู่ที่นั่น กลุ่มคนเหล่านี้ เขาประกาศว่า จะอยู่กับสยาม ทำให้เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากฝั่งไป 60 กว่ากิโล เป็นของไทย ทำให้เรา ได้ทะเลแถวนั้นมาทั้งหมด นี่คือที่มาที่ไป
แล้วไปเกี่ยวอะไรกับที่ดินแปลงนี้ เพราะอะไร นายทุน ไปจับจองซื้อตรงนี้ แล้วมากั้นรั้ว เกิดอะไรขึ้น?
ป้าดุก : คือ ชาวเลเขาอยู่กันแบบพออยู่พอกิน ไม่ได้ถือเอกสารสิทธิ์ ไม่ได้แบ่งเขตอะไรกัน บ้านส่วนใหญ่ ก็อยู่ติดทะเล เขาจำเป็นต้องออกทะเล มีเรือ พอมารุ่นที่มีเรื่องเอกสารสิทธิ์ การท่องเที่ยวเข้ามาด้วย ทำให้เขาถูกกดดัน ไม่เรียกว่า ข่มขู่ แต่ถูกกดดัน กล่าวว่า ที่ดินตรงนี้ เป็นของฉัน โดยที่ชาวบ้านไม่เคยรู้
ที่ตรงจุดนี้ มันคืออะไร ที่เกิดข้อพิพาท มันคืออะไร?
ป้าดุก : ตรงจุดนี้ เป็นจุดที่มีโรงเรียนอยู่ มีทางเข้าออกทะเล
แปลว่า คนมาซื้อที่ และก็ ไล่ที่ชาวบ้าน มาซื้อ น.ส.3 เป็นหนึ่งในคนที่รุกที่อุทยานด้วย?
ป้าดุก : ใช่ค่ะ
เขาฟ้องเราว่าอะไร?
เรณู : บุกรุกค่ะ ให้รื้อถอน กลายเป็นจำเลยแล้ว
เขาให้ออก เพราะว่า เขาซื้อมา แล้วที่จริงๆ เป็นของใครกันแน่?
เรณู : ตาของเรา พูดว่า เป็นของคุณตา ตาอ่านหนังสือไม่ออก คุณตา ก็ไม่ทราบว่า จะไปออกเอกสารสิทธิ์ตรงไหน คุณตาไม่เคยบอก คือชาวบ้านใครมาอาศัย ก็ขอตา ตาก็ให้อยู่เป็นกลุ่มที่นั่นหมด
ฝั่งเจ้าของที่ตอนนี้ ที่พูดว่า ไปซื้อที่ดินแปลงนี้มา เขาซื้อจากใคร?
ป้าดุก : ซื้อจากนางดารา ลูกสาวโต๊ะคีรี หนึ่งของชาวเลรุ่นแรกที่เข้ามาอยู่ ออกเอกสารสิทธิ์ไปครั้งแรก 51 ไร่ สค. 1 พอมารังวัดครั้งที่สอง เป็น 81 ไร่ พอมาเป็น น.ส.3 ช่วงนี้ 140 ไร่
คนมาซื้อแปลงนี้เป็นนักธุรกิจ ที่รุกอุทยานด้วย?
ป้าดุก : คนนี้แหละค่ะ เขาไปสร้างรีสอร์ตรุกอุทยานค่ะ
พี่อยากที่จะให้เอาที่แปลงนี้คืนมาเป็นสาธารณะประโยชน์ หรือยังไง?
ป้าดุก : ให้เปิดทางก่อน
มุม นายทุน จะยังไง?
พ.ต.ต.วรณัน : หนึ่ง เรา ดูก่อนว่า ขั้นตอนการได้มา ซึ่งเอกสารสิทธิ์ชอบมั้ย ถ้าไม่ชอบ ขั้นตอนจากนั้น ก็ไม่ชอบ สิทธิ์ก็ไม่ได้ ประเด็น คือ จะเป็นความผิด ฐานบุกรุกหรือไม่ เดี๋ยวไปดูข้อสรุปตามทีหลัง แต่ว่าประเด็นเรื่องการเปิดทาง ที่ทนายเสนอแนะ ก็ถูกทางแล้ว ไปใช้สิทธิ์ทางศาล
ทนายแก้ว : ถ้าเกิดเรา จะไปรื้อยกแผงเหล็กออก ตรงนี้ พวกเรา ทำไม่ได้ การที่จะเอาออกได้ เรา ก็จำเป็นต้องใช้สิทธิ์ทางศาล ร้องเข้าไป ให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองระหว่างพิจารณาคดีก่อน ด้วยเหตุนั้น พี่ต้องรีบดำเนินการร้องต่อศาล จะเอาไปรื้อเองจะกลายเป็นข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ ตรงนี้ พี่ต้องระมัดระวังครับ
ฝั่งพี่ได้รับความเดือดร้อนยังไง?
เรณู : ในเวลานี้ คือ มีคดีฟ้องร้องอยู่ ในขณะนี้ ยังเข้าออกบ้านได้ แต่ว่าก็กลัว
ป้าดุก : เขาก็ติดป้ายว่า ห้ามใครเดินเข้ามาในที่ดินของเขา พี่น้องเขาก็เลยกลัว
เด็กนักเรียนอยู่ในสาย เดือดร้อนอย่างไร?
นักเรียน : เข้าออกโรงเรียนยาก เนื่องจาก มีรั้วกั้นครับผม
ขึ้นเรืออ้อมหน้าชายหาดได้ จริงมั้ย?
เด็กนักเรียน : จริงครับผม แต่ว่าใช้เวลานาน มันไกลด้วยครับ ไม่โอเค ถ้าเกิดนั่งเรือไป
สิ่งที่เด็กๆทำกัน ทำกันอย่างไร?
เด็กนักเรียน : ปีนรั้วนะครับ เขาก็ยังกั้นอยู่ นักเรียน ก็จะต้องใช้วิธีนั้น ซึ่งมันเสี่ยงกับการที่จะเกิดอันตรายมากกับชีวิตมากเลยครับ
ถ้าปีนรั้วแบบนี้ ทางเขาก็สามารถแจ้งบุกรุกได้เหมือนกัน?
ทนายแก้ว : ถูกครับผม กรณีนี้ ความผิดฐานบุกรุกชัดเจน เนื่องจากว่า เขาก็มีสิทธิ์ป้องกันที่เขาอยู่แล้ว แต่ว่าการที่น้องๆปีน ถึงแม้ว่าจะอ้างเหตุว่า เรา จะเข้าไปเรียนหนังสือ แต่เราจำเป็นต้องไปว่ากัน ว่าตัวนายทุนมีสิทธิ์ปิดมั้ย ต้องคอยให้ทนายไปดำเนินการฟ้อง เพื่อเพิกถอนก่อน
เรื่องการฟ้องร้องเข้าใจ แต่ว่าปัญหาเร่งด่วน ที่จะต้องแก้ คือ จุดที่นักเรียน ต้องไปเรียน จะแก้ไขปัญหานี้ ได้ยังไง สมมุตินายทุนเขาซื้อที่ดินแปลงนี้ถูกต้องหมดเลย เขาอ้างเป็นที่ดินของเขา จะแก้ไขยังไง?
ทนายความแก้ว : ก็จำเป็นต้อง ดูว่า ไอ้ที่ตรงนี้ เป็นทางสาธารณะที่คุณมีสิทธิ์ซื้อหรือเปล่าก่อน ถ้าเกิดมีทางสาธารณะเป็นส่วนหนึ่งในโฉนด ที่คุณจะซื้อเอกสารสิทธิ์ คุณก็ซื้อไม่ได้ เนื่องจากว่า กฎหมายกำหนดชัดเจนว่า ทางสาธารณะประโยช์จากแผ่นดิน มันจะกระทำการซื้อขายจับจองกันไม่ได้ ต้องพิสูจน์กันว่า พื้นที่ตรงนี้ เป็นทางสาธารณะอยู่
วันนี้ไปเรียนกันอย่างไร?
นักเรียน : ปีนรั้วข้ามมาครับ ทั้ง 300 คนนะครับ
ไปขอนายทุนหรือยัง?
นักเรียน : เคยขอร้อง แต่เขาไม่สนใจพวกหนูเลย
ทางโรงเรียนว่าไง?
นักเรียน : ทางโรงเรียนไม่ได้ว่าอะไร แต่ว่าพวกผมเป็นคนจำเป็นต้องเข้าโรงเรียน มันก็ยาก
จากที่เห็นกับตา ประเมินยังไง?
อนุชา : พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมถึง นักเรียน บิดามารดา ผู้ปกครอง วิถีชีวิตเขา เขาอยู่กันมาเป็น 100 ปี ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ จนกระทั่งปัจจุบัน เขาก็ใช้ทางนี้ เป็นเส้นทางหลัก แล้วย้ายถิ่นฐานกันตลอดมา เพราะ ถูกความเจริญก้าวหน้า เข้ามาครอบงำ ในวิถีชีวิต เป็นอะไรที่น่าสงสารมาก
ประเด็นที่จะคุยกับนายทุน มีอะไรบ้าง?
อนุชา : จากการสอบถาม ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทางเส้นนี้ เขาใช้เป็นทางหลักในชีวิตประจำวันมาเป็นเวลายาวนานแล้ว โรงเรียน ก็ใช้ทางนี้ ไม่ใช่นักเรียน เรียนอย่างเดียว แม้กระทั้งเขาเป็นชาวเล เขาก็ใช้วิถีชีวิต สำหรับในการหาเลี้ยงชีพกับทางนี้ด้วย
ไม่ใช่เฉพาะนักเรียนอย่างเดียว ก็ไม่มีทางเส้นอื่นให้เขาได้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งจำเป็นเป็นอย่างมาก ที่เรื่องนี้จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างเต็มรูปแบบ
อีกกรณี ชาวบ้านก็ไม่สบายใจเช่นเดียวกัน มองอีกมุมนึง คือ มีเด็กๆเด็กนักเรียน 300 คน รวมถึง ชาวบ้านละแวกนั้น เคยไปขอนายทุนท่านนั้น กล่าวว่า ขอเถอะอย่าปิดเลย แต่เขาก็ไม่คุยด้วย เขาติดเลยว่า บุกรุกมีโทษโดยชอบด้วยกฎหมายต่างๆนานา ประเด็นอย่างนี้เหมือนเขาไม่ได้กลัวอะไรหรือเปล่า?
อนุชา : ไม่เป็นไรครับผม เดี๋ยวต้องดำเนินงานตามกฎหมาย อย่างเต็มที่ เมื่อกี้ได้ยินชื่อท่านเลขาฯ ธนกฤต ประเด็นนี้ต้องให้กระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าภาพ สำหรับการบริหารจัดการ ในส่วนกระบวนการยุติธรรม และก็ เรียกร้องสิทธิ์แทนพี่น้อง ที่เขาขาดที่พึ่ง
ผมรู้สึกว่า เรื่องนี้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงกระทรวงยุติธรรม ที่จะมาดำเนินการ หากเจ้าของ หรือ คนได้รับสิทธิ์ หากเขาคิดว่า เขาดำเนินการถูกต้องหรือไม่อย่างไร เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน
ต้องการพูดอะไรกับท่าน?
ป้าดุก : เรื่องเร่งด่วนค่ะ เพราะเหตุว่า เวลานี้ เด็กก็ไม่ได้ตั้งใจเรียน พอเด็กไปนั่งเรียน เขาก็มาเชื่อมเหล็กที่จะปิด พี่น้องก็เก็บเต็นท์มา 4 รอบแล้วค่ะ พอพี่น้องไม่มาเฝ้า เขาก็เอาคนงานมาก่อสร้าง เป็นอย่างนี้เมื่อวันที่ 26 จนกระทั่งวันนี้ พี่น้องคุยกับปลัดเรา คุยกันรู้เรื่องว่า ถอยนะ วิ่งกันออกมา ต้องมาเฝ้าไม่ให้เขาเชื่อมเหล็กสำเร็จ ศาลจะนัดหมายสอบสวนอาทิตย์หน้า
อนุชา : ผมลงมาพูดคุยกับพี่น้อง ทั้งยังผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ภาค และก็ บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทางดีเอสไอก็จะได้เฝ้าระวัง เพื่อให้มีการคุยหลายมิติ ให้เกิดความชอบธรรม ไม่ต้องห่วงครับ ผมได้คุยกับพี่น้อง ในส่วนแกนนำ พี่น้องต่างๆ ค่อนข้างชัดเจน
สำหรับการเดินทางระยะยาว เพื่อลูกหลาน เพื่อให้เขามีชีวิต และ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย ไม่ใช่แค่ในเวลานี้เท่านั้น คุยกันในส่วนระยะยาวที่พวกเราจะดูแล